วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

สุดยอดอาหารธรรมชาติชะลอความแก่

         อายุเป็นเพียงตัวเลขค่ะ อยากให้ทุกคนคิดอย่างนี้ ไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะมีอายุเท่าไหร่ ถ้าหากคุณคิดอยากจะทำอะไรแล้วหละก็ ขอให้ลงมือทำเลยค่ะ ไม่ต้องไปกังวลว่า โอย เราอายุเยอะแล้วคงทำไม่ได้หรอกมันสายไปแล้ว อย่าคิดแบบนั้นค่ะมันทำให้เราหมดกำลังใจ เคยอ่านหนังสือของคุณบัณฑิต  อึ้งรังษี มีอยู่บทหนึ่งเขาเขียนถึงคนที่ประสบความสำเร็จตอนอายุมากแล้วประทับใจมากค่ะ เขายกตัวอย่างมา 3-4 บุคคล คือผู้พันแซนเดอร์ส (Colonel Sanders) สร้าง KFC เมื่อตอนอายุ  60 ปี หลังจากที่ทำอะไรแล้วล้มเหลวมาทั้งชีวิต คุณย่าโมเสส (Grandma Moses) เป็นจิตกรที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของโลก ภาพวาดของเธอเป็นที่ต้องการจากนักสะสมทั่วโลก เธอเริ่มวาดภาพตอนอายุกว่า 70 ปี นอกจาก 2 คนนี้แล้วยังมีคนอีกมากมายที่เริ่มทำอะไรตอนอายุมาก เหมือนดังเช่นสุภาพของเรา ถ้าดูแลตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ อยู่ก็ยิ่งดี แต่ถ้าอายุมากแล้วก็ไม่เป็นไร เริ่มต้นได้ทุกเมื่อค่ะ




         เกริ่นเรื่องอายุกันมาตั้งนานเข้าเรื่องสักทีดีกว่า หัวเรื่องก็บอกอยู่แล้วนะค่ะว่าเป็นเรื่องของ สุดยอดอาหารธรรมชาติชะลอความแก่ อายุที่มากขึ้นทุกวัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องแก่ลงตามอายุที่มากขึ้นเสมอไป ความแก่ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง รอยตีนกาบนใบหน้าอย่างเดียว แต่หมายถึงทุก ๆ เซลล์ในร่างกายที่มีการเสื่อมสภาพลงค่ะ และนำไปสู่การเจ็บป่วยในที่สุด แต่ถ้าเรารู้จักดูแลตัวเอง เราก็จะสามารถชะลอความแก่ลงได้ค่ะ วันนี้จะเสนออาหารจากธรรมชาติที่สามารถชะลอความแก่ได้ค่ะ ได้แก่

 
          ปลา มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นสารสำคัญในการบำรุงสมองและหลอดเลือด มีงานวิจัยมากมายที่ยอมรับว่าการกินปลาเป็นประจำช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ ซี่งเป็นกรดไขมันไม่ดีในหลอดเลือด แล้วก็เพิ่มไขมันตัวดี  HDL ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจขาดเลือด โรคเส้นเลือดในสมองตีบ แลโรคสมองเสื่อมได้ ควรกินปลาให้หลากหลายชนิดสลับกันบ่อย ๆ อย่ากินอย่างใดอย่างหนึ่ง ควรกินให้ได้สัอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หลีกเลี่ยงการทอด เพราะกรดไขมันโอเมก้า 3 จะละลายไปกับน้ำมันที่ใช้ทอด

         
           ถั่วเปลือกแข็ง การกินถั่ววันละนิดจะช่วยเสริมสารอาหารดี ๆ ให้แก่ร่างกายได้มาก เพราะถั่วอุดมไปด้วยกรดไขมันที่ดี สารไฟโตสเตอรอล เส้นใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ ซีลีเนียม (selenium) และวิตามินอี ซึ่งทั้งหมดนี้มีส่วนช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย ป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และหลอดเลือดได้ เพื่อป้องกันการได้รับพลังงานเกินความจำเป็น ควรกินถั่วแทนขนมหรือของว่างบางชนิด แทนที่จะเพิ่มการกินถั่วเข้าไปเพียงอย่างเดียว ถั่วเปลือกแข็งได้แก่ ถั่วลิสง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ พิสตาชิโอ วอลนัต

      

     โอลเกรน หรือ แป้งไม่ขัดสี เพราะแป้งไม่ขัดสีอุดมไปด้วยสารที่ช่วยชะลอความแก่มากมาย ทั้งวิตามินบี วิตามินอี แมกนีเซียม และเส้นใยอาหาร มีส่วนช่วยลดความเครียด บรรเทาอาการซึมเศร้า เพิ่มสมาธิในการทำงาน ลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและมะเร็งบางชนิด แป้งไม่ขัดสีได้แก่ ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวบาเล่ย์ ลูกเดือย ขนมปังโฮลวีต ข้าวโพด คำแนะนำในการบริโภคคือ ควรกินแป้งไม่ขัดสีให้ได้ครึ่งหนึ่งของแป้งทั้งหมด ง่าย ๆ ก็คือ กินข้าวกล้องแทนข้าวขาว เลือกกินขนมปังโฮลวีตแทนขนมปังสีขาว




            ผักผลไม้หลากสีสัน เพราะแต่ละสีแต่ละชนิดนั้นจะมีสารเคมีที่แตกต่างกันออกไปคือ
                    
           กลุ่มสีเหลืองหรือสีส้ม มีสารเบต้าแคโรทีน (beta-carotene) ปกป้องและซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลายและเพิ่ม ระบบภูมิคุ้มกัน

           กลุ่มสีเขียวเข้ม มีสารลูทีน (lutein) ช่วยลดความเสี่ยงของต้อกระจก

           กลุ่มสีแดง มีสาร (lycopene) ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมาก

          กลุ่มสีม่วงแดง มีสารแอนโตไชยานิดิน (anthocyanidins) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมและเพิ่มภูมิคุ้มกันได้

          กลุ่มสีขาว ผักผลไม้ที่มีสีขาว สีชา สีน้ำตาล มีสารประกอบสำคัญหลายชนิดที่นักวิจัยทั่วโลกให้ความสนใจ เช่น สารไอโซไทโอไซนาเนต (isothiocyanates) ที่พบในกำหล่ำปลี ดอกกระหล่ำ  มีสารต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด ควรเลือกกินผักผลไม้ทุก ๆวัน สลับกันไปตามฤดูกาล



         โยเกิร์ต ในโยเกิร์ตมีเชื้อจุลินทรีย์ พบว่าการมีเชื้อจุลินทรีย์ในปริมาณที่มากพอ ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง ลดความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิด ควรเลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติไขมันต่ำ

          กระเทียม มีสารอัลลิอิน (alliin) พบว่ามีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด เพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ควรใช้ปรุงรสอาหารหรือจะรับประทานแบบสด ๆ ก็ได้

          ขมิ้น มีสารต้านอนุมูลอิสระเคอร์คิวมิน (curcumin) จะช่วยปกป้องและบำรุงสมองได้มาก ป้องกันโรคสมองเสื่อม และอาจช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิดได้ด้วย สามารถโรยผงขมิ้นไปกับอาหารที่เรารับประทานได้เลย หรือจะนำมาปรุงเป็นอาหารก็ได้ เช่น แกงส้ม ปลาทอดขมิ้น ฯลฯ

           ชา มีสารฟลาโวนอล มีส่วนช่วยให้สุขภาพหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง ลดการอุดตันไขมันในหลอดเลือด สังเกตุมั้ยว่า คนจีน คนญี่ปุ่นเป็นชาติที่มีอายุยื่น และเป็นชาติที่นิยมการดื่มชาเป็นพิเศษ





            รู้อย่างนี้แล้วไปหามารับประทานกันดีกว่าค่ะ เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายของเราจะได้ชะลอวัย แล้วก็จะได้มีสุขภาพแข็งแรงด้วยค่ะ

         


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น